รายละเอียด
จุดเด่น (Features)
–ระบบ PILOT CUT เป็นระบบการตัดพลาสม่าโดยลำแสงพลาม่าจะห่างจากชิ้นงาน 2-3 มิลลิเมตร
-กระแสไฟในการตัดเรียบเสมอตลอดการตัด
– สามารถตัดชิ้นงานที่มีความเว้าโค้งหรือรูปร่างต่างๆ ได้โดยง่าย
-รอยตัดจะมีความราบเรียบและออกมาสวยงามมีความเรียบร้อย
-สามารถทำความเร็วในการตัดโลหะได้เนื่องจากการตัดพลาสมามีความร้อนสูง
-ความร้อนที่เกิดจากการตัดโลหะจะกระจายความร้อนในวงแคบๆ
บรรจุภัณฑ์ (Packaging)
เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT60-L211บรรจุในกล่องกระดาษแข็ง มีวัสดุกันกระแทกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
อุปกรณ์ทั้งหมดในกล่อง (Products and Accessories)
- เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT60-L211
- ชุดสายตัดและหัวตัดพลาสมา รุ่น P80ยาว 5 เมตร
3. สายดิน 300Aขนาด 6ตารางมิลลิเมตรยาว3 เมตร
- ทิพ/อิเล็กโทรด/ล้อรองตัด / ประแจไขหัวตัด
- คู่มือการใช้งานและใบรับประกันสินค้า
การใช้งาน (Applications)
เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT60-L211 เป็นระบบ PILOT CUTสามารถตัดโลหะได้ดี ราบเรียบ แนวตัดมีความสวยงาม ตัดโลหะได้ทุกประเภท เช่น เหล็กแผ่น ทองแดง สแตนเลส อลูมิเนียม โครงสร้างอาคาร เป็นต้น ประหยัดกว่าการใช้แก๊สตัด การเกิดอันตรายค่อนข้างน้อย ชิ้นงานที่ตัดไม่เกิดการเสียรูปทรง ไม่บิดหรืองอ ใช้คู่กับปั๊มลมในการตัด
วิธีการใช้งาน (How to use)
– เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT60-L211ตัวเครื่องมีสายไฟติดมากับตัว เครื่องไม่มีปลั๊ก (แนะนำให้ใช้ปลั๊กพาวเวอร์ในการใช้งานสะดวกในการเคลื่อนย้าย)
– วิธีการประกอบสายตัดและสายดิน สายตัดจะมีทั้งหมด 3 เส้นต่อเข้ากับตัวเครื่องฝั่น ( – ) นำข้อต่อเกลียวของสายดินเข้าไปกับตัวเครื่อง ตามสัญลักษณ์ที่ติดกับตัวเครื่อง ( + )
– ต่อสายลมจากปั๊มลมเข้ากับเกจวัดแรงดันด้านหลังของเครื่อง ปรับแรงดันลมอยู่ที่ 4 – 5 บาร์
–สวิทช์เปิด-ปิด
– สามารถปรับเพิ่ม/ลดกระแสในการตัดได้ที่ปุ่มด้านหน้า
– หลักการตัดของการตัดพลาสม่า คือ เมื่อหัวตัดสัมผัสชิ้นงานจะสร้างกระแสสถานะพลาสม่าที่มีความร้อนสูงถึง 16,000 องศาเซลเซียสโดยปฏิกิริยาทางไฟฟ้าและใช้ลมช่วยในการเป่าเพื่อหลอมละลายชิ้นงาน
ข้อควรปฏิบัติ/ข้อควรระวังในการใช้งาน (Do and Don’t)
-พื้นที่เชื่อมจะต้องไม่มีก๊าซหรือสารเคมีที่สามารถติดไฟได้และจะต้องมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
– ก่อนใช้งานทุกครั้ง ควรใส่อุปกรณ์ ป้องกัน เช่น แว่นตากันสะเก็ด ถุงมือหนัง หน้ากากป้องกันฝุ่น
– ปลั๊กไฟต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะใช้งานตรวจสอบอุปกรณ์ เช่น สายตัดสายกราว ข้อต่อหน้าเครื่อง ไม่ให้เกิดความเสียหายหรือมีรอยรั่ว
– ไม่ควรดัดแปลงตัวเครื่องหรือสายตัด หรืออุปกรณ์ส่วนอื่น หากมีการชำรุดของอุปกรณ์ต่างๆให้รีบเปลี่ยนทันที
– ห้ามใช้งานใกล้กับวัสดุที่ติดไฟง่าย หรืออุปกรณ์บรรจุวัตถุไวไฟ
-ในการใช้งานต้องต่อสายดินทุกครั้ง
การบำรุงรักษา (Maintenance)
– ตรวจสอบกำลังไฟขาเข้าให้ถูกต้อง ตามความต้องการของเครื่องตัวนั้นๆ
– หลังจากหยุดการใช้เครื่องแล้ว ควรปล่อยให้พัดลมระบายอากาศของเครื่องทำงานอย่างน้อย 10-15 นาที โดยเปิดเครื่องค้างไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนไปสะสมที่แผนวงจร และป้องกันการเสียหายของอุปกรณ์ภายใน
– ควรจะเป่าฝุ่นออกอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพราะฝุ่นละอองเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ เกิดความเสียหายได้ถ้ามีการสะสมมากๆจะทำให้ระบบวงจรบกพร่อง การไหลของวงจรกระแสไฟไม่ดีเท่าที่ควร
ตารางแสดงรายละเอียดคุณสมบัติสินค้า (Specifications)
Number | คุณสมบัติ | รายละเอียด | หน่วย |
1 | กำลังไฟฟ้าที่ใช้ | 220 | โวลต์ |
2 | กำลังไฟเข้า | 7 | KVA |
3 | แรงดันไฟขณะไร้ภาระ | 300 | โวลต์ |
4 | กระแสการตัด | 20 – 60 | แอมป์ |
5 | ความสามารถในการทำงาน | 100% = 38 / 60%= 49 | |
6 | ความสูญเสียขณะไร้ภาระ | 50 | วัตต์ |
7 | แรงดันไฟขณะตัด | 104 | โวลต์ |
8 | ประสิทธิภาพ | 85% | |
9 | พาวเวอร์แฟคเตอร์ | 0.7 | |
10 | ระดับความเป็นฉนวน | F | |
11 | ระดับฉนวนป้องกัน | IP21S | |
12 | แรงดันลม | 4 – 5 | บาร์ |
13 | ปริมาณลม | 0.25 | m3/min |
14 | น้ำหนัก | 14.5 | กิโลกรัม |